โรคผื่นระคายสัมผัส เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ในทางการแพทย์กล่าวได้ว่า เป็นการที่เกิดผื่นแดงขึ้นมาที่ผิวหนัง จนทำให้รู้สึกคันตามร่างกาย ไม่สบายตัว ส่วนใหญ่แล้วจะเกิดขึ้นมาหลังจากที่ได้รับสารทำให้เกิดการภูมิแพ้ขึ้น หรืออาจมีสารทำให้เกิดการระคายเคือง ถ้าหากว่าผิวชั้นนอกได้โดนทำลายไปแล้ว จะทำให้ผื่นขึ้นมาได้ แต่ไม่ใช่โรคติดต่อแต่อย่างใด รบกวนการใช้ชีวิต โดยปกติแล้วจะหายได้เองในระยะเวลาไม่นาน ถ้าหลายวันเกินไป จะอันตรายและต้องพบแพทย์ทันที ต้องหมั่นสังเกตตนเองให้ดี
อาการที่เกิดขึ้น จะเกิดขึ้นมาในส่วนที่โดยไปสัมผัสสารทำให้เกิดการระคายเคือง ปกติแล้วจะหายได้เอง ส่วนใหญ่แล้วจะมีผื่นขึ้นตามร่างกาย ขึ้นมาบนผิวหนัง จนทำให้รู้สึกคันตามร่างกาย มีความแห้งแตกขึ้นมาที่ผิว ผิวลอกขึ้นมาจนเป็นขุยๆ เกิดตุ่มพองขึ้นตามร่างกาย มีน้ำเหลืองไหลออกมา ผิวหนังมีความบวมแดง ในบางครั้งเกิดการเปลี่ยนสีที่คล้ำ จะพบว่ามีสีม่วง มีเทา เป็นต้น มีความแสบร้อนที่ผิว ไวต่อแสง กดไปแล้วรู้สึกเจ็บ ถ้าหากว่าเกิดอาการไม่ได้แพ้ที่รุนแรง จะเกิดขึ้นมาในระยะเวลา 2-3 วันเท่านั้น แต่ถ้าหากว่าเกิดการลุกลามที่รวดเร็ว 21 วันแล้วไม่ดีขึ้น จะต้องพบแพทย์ทันที
สาเหตุของปัญหานี้ เกิดจากการไปสัมผัสสารที่มีความระคายเคือง เช่น มีการทำความสะอาดบ้าน ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดท่อ เกิดจากฝุ่นละออง น้ำหอม สารกันเสีย สารเคมีต่างๆ ต่อมาจากผื่นที่มีการสัมผัสสารก่อภูมิแพ้ เช่น ยาย้อมผม ยาบางชนิด ถุงมือยาง ละอองเกสรดอกไม้
โรคผื่นระคายสัมผัส แนวทางการรักษาและป้องกัน
แนวทางการรักษา ต้องเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดสิ่งที่เป็นระคายเคืองขึ้นมา ตัดเล็บให้สั้น ไม่เกาผิวหนังถ้าไม่จำเป็น ทำความสะอาดผิวด้วยสบู่อ่อนๆ ล้างมือให้สะอาดเมื่อรู้สึกว่าผิวแห้ง ให้เพิ่มความชุ่มชื้นกับผิวให้ได้
แนวทางการป้องกัน ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ทดสอบการแพ้ก่อนใช้
โรคผื่นระคายสัมผัส เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาได้กับทุกคน ทำให้ต้องรักษาตนเอง ป้องกันร่างกายตนเองไม่ให้เกิดความระคายเคืองขึ้น และไม่ควรพลาด 888slot เว็บเดิมพันออนไลน์ เล่นง่าย ได้เงินจริง มั่นคงทางการเงิน ปลอดภัย 100% ให้รางวัลสูง
ติดตามเว็บไซต์ การดูแลสุขภาพ รวบรวมเคล็ดลับต่างๆและข้อมูล อาหารเพื่อสุขภาพ